Translucia Metaverse ทุ่ม 100 ล้านเหรียญปักธงศูนย์วิจัยเมทาเวิร์สในต่างแดน พร้อมผนึกกำลัง Two Bulls จากออสเตรเลีย ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำ

บริษัท ทรานส์ลูเซีย โกลบอล อินโนเวชั่น ในเครือ บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด (T&B) เดินหน้าโครงการอาณาจักรโลกเสมือน ทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์ส (Translucia Metaverse) ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นหลังจากร่วมระดมสมองกับพาร์ทเนอร์ชั้นแนวหน้าของโลกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้ประกาศเปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านเมทาเวิร์ส (Metaverse R&D Center) ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยตั้งงบประมาณการวิจัยไว้ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเฟสแรกเพื่อวิจัยด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ในการเชื่อมโยงโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือน เพื่อสร้างสรรค์ความเป็นอยู่และกิจกรรมต่างๆระหว่างทั้งสองโลกให้กลมกลืนมากยิ่งขึ้น

          ดร. ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์​ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร T&B Media Global และ CEO ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัททรานส์ลูเซีย (Translucia) กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้ประกาศจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านเมทาเวิร์ส ในนามบริษัททรานส์ลูเซีย โกลบอล อินโนเวชัน (Translucia Global Innovation Pty. Ltd) ซึ่งนับเป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยเฉพาะด้านนี้ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากรัฐบาลออสเตรเลียที่สนับสนุนให้บริษัท ทูบูลส์ (Two Bulls) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ เพื่อการศึกษาและความบันเทิงชั้นนำจากประเทศออสเตรเลีย ร่วมผนึกกำลังช่วยพัฒนาศูนย์วิจัยแห่งนี้ให้ไปถึงเป้าหมายการเป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยเมทาเวิร์สระดับโลก การก่อตั้งศูนย์วิจัยดังกล่าว เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าครั้งสำคัญ นับจากที่บริษัทแม่คือ T&B ประกาศทุ่มทุนพัฒนาโครงการจักรวาลเมทาเวิร์สระดับโลก รวมถึงการจัดฟอรั่มนานาชาติ Metaverse Unlimited ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการและนักพัฒนาในสาขาที่เกี่ยวข้องเมื่อปลายปีที่แล้วนั้น โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมทาเวิร์ส เข้ามาร่วมกันพัฒนาโครงการ ทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์ส นี้ ซึ่งรวมถึง ทู บูลส์ ก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักด้วยเช่นกัน

          ดร. ชวัลวัฒน์ กล่าวต่อว่า “ทรานส์ลูเซียรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยด้านเมทาเวิร์สขึ้นมาเพื่อพัฒนาทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์ส ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าของโลกในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมทาเวิร์ส จะได้มีเวทีมาร่วมกันทำงานในโครงการนี้ ทั้งนี้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญขั้นสูงของเหล่าพันธมิตรนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้ความฝันและจินตนาการกลายเป็นจริงได้ โดยเราอยากให้ทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์สแห่งนี้เป็นมากกว่าโลกเสมือนที่ทุกๆ คนรู้จัก โดยจะเป็นโลกแห่งความสุขและรอยยิ้มที่ทุกผู้คนสามารถใช้ชีวิต มีสังคมชุมชน ทำงาน ดำเนินกิจกรรมทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และความบันเทิงต่างๆ ในรูปแบบใหม่ และสามารถเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนได้อย่างไร้ขอบเขต”

          นายเจมส์ เคน (James Kane) CEO บริษัท ทูบูลส์  กล่าวว่า การก่อตั้งศูนย์วิจัยด้านเมทาเวิร์สครั้งนี้ ถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย เป็นปรากฎการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บุกเบิกเมทาเวิร์สรูปแบบใหม่

          “การได้ทำงานร่วมกับทรานส์ลูเซีย ได้สร้างโอกาสและความเป็นไปได้มากมาย ผมคิดว่าศูนย์วิจัยด้านเมทาเวิร์สจะสร้างโอกาสที่ดีในการดึงดูดกลุ่มคนที่มีวิสัยทัศน์ด้านเมทาเวิร์ส ซึ่งจะเป็นผลดีมากมายทั้งต่อทีมทรานส์ลูเซียเองในการเติมเต็มวิสัยทัศน์ที่น่าทึ่งให้เป็นจริงได้ และ ต่อเรา ต่อโลก ส่งผลให้ผู้คนที่สนใจได้รับรู้ไอเดียของทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์สในมุมมองใหม่ ที่ สามารถสร้างความแตกต่างจากเมทาเวิร์สรายอื่นๆ ในโลกที่เราเคยเห็นกัน”   

          โดยพันธมิตรสำคัญอย่างทูบูลส์จะมีบทบาทหลักในการร่วมพัฒนาและบริหารศูนย์วิจัยด้านเมทาเวิร์ส รวบรวมข้อมูลและสร้างสรรค์พฤติกรรมของผู้เข้าใช้บริการในโลกเมทาเวิร์ส โดยเฉพาะการสร้างองค์ประกอบแห่งความสนุกสนานให้แก่ผู้เข้ามาใช้งานภายในทรานส์ลูเซีย 

นอกจากนั้นยังมีพันธมิตรอีกรายที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ เพลลาร์ เทคโนโลยี (Pellar Technology) ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบบล็อคเชนเทคโนโลยี เพื่อมารองรับกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นในจักรวาลทรานส์ลูเซีย ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาขึ้นมาใช้ในโลกเสมือนและเชื่อมโยงให้สามารถนำมาใช้ในโลกแห่งความจริงด้วย 

          สำหรับพันธมิตรรายแรกของทรานส์ลูเซียนั้น คือบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ก็มีการทำงานร่วมกันในการพัฒนาเมทาเวิร์สของ MQDC ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลทรานส์ลูเซีย โดยเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท เอคเซนเชอร์ (Accenture) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาธุรกิจและวางแผนกลยุทธ์เมทาเวิร์ส โดยทางเอคเซนเชอร์จะเข้ามาทำงานร่วมกันกับทีมพัฒนาเมทาเวิร์สของ MQDC อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนารูปแบบเมทาเวิร์สนี้ให้แตกต่างและเต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่อสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือนเท่านั้น

นอกจากพันธมิตรต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้ว โครงการนี้ยังมีองค์กรภาครัฐของทั้งสองประเทศเข้าร่วมแสดงความยินดีอีกด้วย โดยทางรัฐบาลออสเตรเลีย ( Australian Government ) ได้ให้ความเห็นต่อความร่วมมือในการพัฒนาและวิจัยทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์ส (Translucia Metaverse) นี้ว่าเป็นโอกาสที่ดีของการสานสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสองประเทศออสเตรเลียและไทยให้เติบโตไปด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์ที่จะร่วมพั ฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย เมทาเวิร์ส ทรานส์ลูเซียนี้ ให้ตอบโจทย์ความยั่งยืนและสร้างความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นให้สำหรับคนหมู่มากในอนาคตให้ได้ 

รัฐบาลออสเตรเลีย (Australian Government) ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงบริษัท ทูบูลส์ (Two Bulls) ว่าเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งได้รับการรับรองจากรัฐบาลออสเตรเลีย มาร่วมในการวิจัยโลกเสมือนจริงและสร้างความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น  

          สำหรับ ทูบูลส์ (Two Bulls) เป็นบริษัทที่ได้รับรางวัลมากมาย โดยได้รับการยอมรับจากรัฐบาลออสเตรเลีย สำหรับผลงานที่ทำร่วมกับแบรนด์ดังจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทด้าน entertainment อย่าง Seasame Street ด้าน Smart City กับ บริษัท Verizon รวมถึงงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กับบริษัท Apple 

          สำหรับประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า (Depa) ได้ขอแสดงความยินดีกับ ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ และ ทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์ส (Translucia Metaverse) ในการจัดตั้งศูนย์วิจัยนี้ โดยดีป้าพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้สตาร์ทอัพ (Startup) นักพัฒนา (Developer) รวมถึงผู้ประกอบการในไทยได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยพัฒนาแอพพลิเคชัน (Application) หรือบริการต่างๆ บนทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์ส ต่อไป 

                                         ————————————————————

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *