DMT เดินหน้าเข้าสู่องค์กรESG เต็มสูบ ล่าสุดเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านดินแดง ยกระดับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินสู่การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

DMT เดินหน้าเข้าสู่องค์กร ESG ล่าสุดเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดงก้าวสู่ความเป็นผู้ให้บริการทางด่วนที่สนับสนุนการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังเจ้าแรก ช่วยยกระดับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินต่อผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข สำหรับรองรับผู้ใช้บริการที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากรณีฉุกเฉินเท่านั้น โดยใช้ระบบ DC Fast charge ขนาด 120 กิโลวัตต์ หากแบตเตอรี่หมดก็ใช้เวลาชาร์จไฟโดยเพียง 15 นาที วิ่งต่อได้โดยแบตเตอรี่ไม่หมดบนทางยกระดับอุตราภิมุข และยังอำนวยความสะดวกให้รถปฏิบัติการของบริษัทฯ ที่จะเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในอนาคต  

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยังยืนตามแนวคิด (ESG) ว่า DMT ได้ดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 โดยได้จัดตั้งสายงานการพัฒนาความยั่งยืนองค์กร  ตามนโยบายและพันธกิจที่เกี่ยวกับคามรับผิดชอบต่อสังคมอย่างบูรณาการ จากเดิมที่ดำเนินการในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม(CSR)ซึ่งเป็นการดำเนินการไปตามปกติ จนกระทั้งบริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บริษัทจดทะเบียน)ได้ดำเนินการตามนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างบูรณาการ ใน3 มิติคือสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติเศรษฐกิจการกำกับการดูแลกิจการ

ในส่วนการดำเนินการสร้างคามหนักรู้ให้กับพนักงานในองค์กรเริ่มจากหลักการ 3 R เป็นเบื้องต้นคือ Reduce การลดปริมาณขยะ  Reuse การนำกลับมาใช้ใหม่ และ Recycle  การเปลี่ยนสิ่งที่เก่าและไร้ประโยชน์ ให้เป็นสิ่งใหม่ ที่มีประโยชน์ และได้ขยายไปสู่งานวิจัยและพัฒนา (R&D)ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการอยู่หลายโครงการ เช่นการนำฝุ่นจะดำจัดเก็บมาทำการแปรรูป การพัฒนาวัสดุใช้ส้อยจากเศษวัสดุเหลือใช้ต่างๆ

ด้านสิ่งแวดล้อมได้มีการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานสีเขียวพลังงานสะอาด ปรับลดการใช้ไฟฟ้าลงในทุกๆส่วนงานประกอบด้วย สำนักงานสีเขียว กรีนออฟฟิศ(Green Office) ได้มีปารปรับเปลี่ยนอุปกรณ์สำนักงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานประหยัดฟ้า หรืออุกกรณ์สีเขียว Green Product) นอกจากนี้ยังได้กำหนดปรับปรุงอาคารสำนักงานเป็นอาคารสีเขียว( Green Building) โดยได้ปรับปรุงอคารตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้เพื่อให้ได้รับมาตรฐานอาคารสีเขียว รวมทั้งได้กำหนดการใช้พลังงานสะอาด( Clean Energy)บริษัทฯได้มีการติดตั้งแผงโซล่าเซลบนหลังคาอาคาร ขณะนี้ผลิตไฟฟ้าได้ 25 กิโลวัตต์ และขยายให้ผลิตได้ถึง 160 กิโลวัตต์ เพื่อใช้ในสำนักงานรวมถึงยานยนต์รถตรวจการต่างๆที่ได้ทะยอยเปลี่ยนมาเป็นรถไฟฟ้า(EV)ขณะนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว7 คันจากที่มีอยู่ร่วม 40คัน และรณรงค์ให้พนักงานที่ซื้อรถใหม่เป็นรถEV เริ่มจากพนักงานระดับผู้บริหาร นอกจากนี้ในส่วนของอาคารตามด่านเก็บเงินที่มีอยู่ให้ได้การรับรองมาตรฐานอาคารเขียวอีกด้วย

ดร.ศักดิ์ดา ยังได้กล่าวถึงแผนงานตามนโยบายด้าน ESG ว่าล่าสุดบริษัทได้ติดตั้งและเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กรณีประสบปัญหาประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่เหลือน้อย ไม่พอที่จะวิ่งบนเส้นทางได้ 2) เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากับผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ และรถปฏิบัติการของบริษัทฯ 3) เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของลูกค้าผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข 4) เพื่อช่วยลดควันพิษจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ และมลพิษทางเสียง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ทางสามารถเดินทางถึงจุดหมายโดยไม่เสี่ยงที่จะแบตเตอรี่หมดบนทางยกระดับอุตราภิมุข ผู้ใช้ทางที่มีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ Tollway Call Center 1233 หรือ Line Official Account ของบริษัทฯ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ปรับปรุงศูนย์อำนวยความสะดวกบริเวณอาคารด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง ภายใต้แนวคิดอาคารลดโลกร้อน เพื่อเป็นจุดอำนวยการสำหรับผู้ใช้บริการ  

“นอกจากนั้นเพื่อรองรับรถปฏิบัติการของบริษัทฯ ที่จะเปลี่ยนถ่ายจากเครื่องยนต์สันดาปเป็นรถพลังงานไฟฟ้า  โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มทยอยเปลี่ยนรถยนต์ผู้บริหารจากเครื่องยนต์สันดาปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีเป้าหมาย 100% อีกทั้งสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในภาคขนส่ง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ DMT ในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2050 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 และยังเป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมภายนอกด้วย โดยเฉพาะการมีส่วนช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าสู่ Carbon Neutrality และสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ด้วยการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม” ดร.ศักดิ์ดาเผย

ดร.ศักดิ์ดา กล่าวต่อว่า เพื่อเพิ่มความสะดวก ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์อำนวยความสะดวก ให้ทันสมัย ประกอบไปด้วย ห้องพักอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการกรณีฉุกเฉิน ห้องสุขาพร้อมรองรับคนพิการ และระบบกล้องวงจรปิด รวมถึงผู้ใช้บริการที่เป็นสมาชิก DMT บน Line Official Account @donmuangtollway ยังสามารถใช้แต้ม DMT แลกรับสิทธิ์ในการชาร์จไฟฟ้ากรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ติดตั้งบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “3C Tollway EV Way” ประกอบด้วย Clean Energy, Convenient และ Comfortable เพื่อให้เป็นสถานีรูปแบบที่มีความสะดวกสบายและเน้นความเป็น Clean Energy สะท้อนวิถีชีวิตของผู้ใช้รถไฟฟ้าที่รักษ์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเภทการชาร์จของตู้ชาร์จไฟฟ้าเป็นแบบรวดเร็ว โดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC EV Charger) ขนาดกำลังไฟฟ้า 120 กิโลวัตต์ 2 หัวชาร์จ 

นอกจากนี้ เพื่อให้มั่นใจถึงความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัย บริษัทฯ ได้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านความช่วยเหลือ ดูแลผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข โดยมีทีมงาน DMT Smart Assistant  ประกอบไปด้วยพนักงานจัดการจราจร พนักงานกู้ภัย พนักงานปฏิบัติการพิเศษ และพนักงานรถยก ที่ทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมปฏิบัติการ (Operation Control Center : OCC) ประสานการทำงานกับระบบ กล้อง AI CCTV เพื่อเฝ้าระวังและตรวจสอบเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นบนทางยกระดับอุตราภิมุข ทีมงานเหล่านี้สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ใช้ทางภายใน 12 นาที เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ตลอดกว่า 2 ปี บริษัทฯ ได้พัฒนาความรู้และทักษะด้านระบบยานยนต์ไฟฟ้าและความปลอดภัย โดยมีวิทยากรชั้นนำของสถาบันยานยนต์ มาอบรมและเสริมเทคนิคการตอบโต้เหตุฉุกเฉินจากยานยนต์ไฟฟ้าทั้งการกู้ภัยและดับเพลิงให้ทีมงานเพื่อความพร้อมเข้าช่วยเหลือ ดูแลรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุขมั่นใจได้ในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

                                    ————————————————

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *