“เกรียงไกร” โชว์ผลการดำเนินงาน กทท.ทำ New High ติดต่อกัน 3 ปี ซ้อน เผยปี67 สร้างกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้ง กกท.มา พร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจควบคู่พร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิ เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นโดดยมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารงานควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและพนักงาน
นาย เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวถึงภาพรวมภาพรวมดำเนินงานของกทท.ในปี2567 ที่ผ่านมาว่า ด้วยการบริหารจัดการที่ดีทั้งเพิ่มรายรับและลดรายจ่ายส่งผลให้มีรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2567 กทท. มีรายได้สูงสุดแตะ New High รวม 17,224 ล้านบาท ถือเป็น New High ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน และมีกำไรสุทธิ 7,648 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งกทท.
ทั้งนี้โดยผลกำไรสุทธิเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี (2565 – 2567) มีกำไรสุทธิเฉลี่ยปีละ 6,863 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อนหน้า (2562 – 2564) มีกำไรสุทธิเฉลี่ยเพียงปีละ 5,834 ล้านบาท ซึ่งจากการดำเนินงานดังกล่าว สะท้อนให้เห็นผลการดำเนินงานด้านการเงินที่ ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กทท. มีกำไรเพิ่มขึ้นจากฐานเดิม เฉลี่ยปีละ 1,029 ล้านบาท
นอกจากนี้ กทท.ยัง สนับสนุนภาคธุรกิจควบคู่พร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิ เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นโดดยมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารงานควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและพนักงาน ด้านการยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อาศัยในชุมชนโดยรอบของท่าเรือกรุงเทพ ถือเป็นนโยบายหลักในการรับผิดชอบสังคมและสิ่งแวดล้อมของการท่าเรือฯ ซึ่งดำเนินมาต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในหลายมิติทั้งในด้านการศึกษา กีฬา อาชีพ และวัฒนธรรม
ทั้งนี้โดยเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา การท่าเรือฯ มอบเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาคุณภาพชุมชนคลองเตยผ่านเสียงดนตรี ประจำปีงบประมาณ 2568 ให้ 3 มูลนิธิ ได้แก่ 1. มูลนิธิดนตรีเพื่อชีวิต 2. มูลนิธิพู่กัน 3. มูลนิธิส่งสริมการพัฒนาบุคคล (ศูนย์เมอร์ซี่) รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,050,000 บาท เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถพิเศษด้านดนตรีให้กับเยาวชนในชุมชนคลองเตยและบริเวณใกล้เคียง ผ่านการเรียนการสอนดนตรี พร้อมทั้งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนในชุมชนคลองเตยแบบองค์รวม ทั้งนี้ ดร.กฤษฎ์ นิรมิตธรรม จากมูลนิธิดนตรีเพื่อชีวิต ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับโครงการฯ ว่า การท่าเรือฯ ได้ช่วยสร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างอัตลักษณ์ให้ชุมชน ตลอดจนสร้างความอบอุ่น และสร้างอารมณ์ที่แจ่มใสให้กับเยาวชนในชุมชนคลองเตย ซึ่งสอดคล้องกับหลัก 5อ ได้แก่ โอกาส อัตลักษณ์ อบอุ่น อาชีพ และอารมณ์
ส่วนแนวทางการพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ กทท. มีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใน 3 ด้านหลัก คือ ด้านโลจิสติกส์และเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาเมือง และด้านการพัฒนาชุมชน เพื่อก้าวสู่ Logistics Hub ของภูมิภาค ด้วยหลัก 3 Smart (3S)ประกอบด้วย1. Smart & Green Port พื้นที่หลักสำหรับปฏิบัติงานของท่าเรือกรุงเทพ ยกระดับให้เป็นท่าเรือที่ทันสมัย มีศักยภาพรองรับธุรกิจพาณิชย์นาวี เน้นการใช้พื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยว ลดต้นทุนโลจิสติกส์ผ่าน 3 โครงการสำคัญคือ1. โครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า (Bangkok Logistics Park),2. โครงพัฒนาท่าเรือกรุงเทพในลักษณะท่าเรืออัตโนมัติ (Terminal 3) และ3. โครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพกับทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ (S1)
2.Smart Commercial พัฒนาพื้นที่สำหรับโครงการเชิงธุรกิจ เช่น ห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน Retail Mixed Use หรือโครงการอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเน้นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ในเชิงเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการพัฒนาท่าเทียบเรือสำราญและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว โดยการบริหารจัดการและพัฒนาท่าเรือท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งและการท่องเที่ยวทางน้ำ และจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ
3.Smart Community พัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบท่าเรือกรุงเทพ โดยเป็นพื้นที่พักอาศัยเพื่อชุมชนในแนวสูง (Smart Community) และศูนย์ฝึกอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนให้มีมาตรฐานและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง สร้างความสุข ลดความเหลื่อมล้ำและเกิดความเสมอภาคในสังคม ตามยุทธศาสตร์ชาติต้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
—————————————–
