รวมพลังทุกภาคส่วน เสริมศักยภาพ SMEs เพิ่มขีดแข่งขันสู่ธุรกิจสีเขียว เดินหน้าหลักสูตร NZAP 2026 และโครงการ Go Together ซีซัน 2

เอสซีจี ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน และเครือข่ายพันธมิตร เดินหน้าจัด 2 โครงการสำคัญ ได้แก่หลักสูตร Net Zero Accelerator Program 2026 (NZAP 2026)และโครงการ Go Together ซีซัน 2 เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEsให้สามารถปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันท่ามกลางความท้าทาย พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม และเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทาง Inclusive Green Growth หลังสำเร็จเกินเป้า มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,400 รายทั่วประเทศเตรียมเดินหน้าพัฒนาหลักสูตรเข้มข้นเพื่อเสริมศักยภาพและตอบโจทย์ SMEs ได้อย่างตรงจุด

ดร.ชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ – การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า “SMEs เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทยที่สร้างรายได้กว่า35% ของ GDP และจ้างงานมากกว่า 70% ของแรงงานในประเทศแต่ในปัจจุบัน SMEs ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงการแข่งขันที่รุนแรง เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็วและแรงกดดันจากมาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับโลก ดังนั้นการปรับตัวจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ทางรอด” เดียวของธุรกิจ

 ที่ผ่านมา หลักสูตร NZAP 2025 และ โครงการ Go Together ซีซันแรก มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,400 รายทั่วประเทศสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของผู้ประกอบการ (SMEs)ในการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งและนำไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจกในเชิงปฏิบัติได้จริงจากผลลัพธ์ที่ชัดเจนนี้ เราจึงเดินหน้าต่อในปี 2026ด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นขึ้นและการมีส่วนร่วมจากพันธมิตรที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อขยายโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ SMEs ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทาง Inclusive Green Growth ที่เน้นความร่วมมือของทุกภาคส่วน มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ”

สำหรับในปีที่ 2 ของหลักสูตร NZAP 2026 และโครงการ Go Togetherซีซัน 2 ได้มีการพัฒนาหลักสูตรให้เข้มข้นยิ่งขึ้น พร้อมขยายเครือข่ายพันธมิตร เพื่อรองรับผู้ประกอบการSMEs ที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับหลักสูตร NZAP 2026 ปรับระยะเวลาอบรมจาก 8 สัปดาห์ เป็น 12 สัปดาห์ ขณะที่โครงการ GoTogether ซีซัน 2 มุ่งเสริมศักยภาพ SMEs ผ่านการศึกษาดูงานจริง พร้อมรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และเปิดโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและแหล่งเงินทุน โดยมีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมเป็นพันธมิตรรายใหม่

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้จริงนั้นมาจากพลังของความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ร่วมกันส่งต่อองค์ความรู้ และแรงสนับสนุนถึงมือ SMEsเพื่อก้าวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ในภาครัฐเองหลายหน่วยงานได้ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อหนุนให้ SMEs ปรับตัวได้อย่างทันท่วงที โดยหนึ่งในพันธมิตรสำคัญ คือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) กล่าวว่า “กรมฯ เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย“ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ด้วยแนวทาง "4ให้ 1 ปฏิรูป" ในการให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน ผ่านการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำแนวคิด BCG มาใช้ในการปรับปรุง ระบวนการผลิตและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมตามแนวทางอุตสาหกรรมสีเขียวให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ (Industry 5.0)สอดรับกับนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส”ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนอย่างเอสซีจี ก็เดินหน้าสนับสนุน SMEsให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนผ่านการดำเนินผ่านหลักสูตร NZAPและโครงการ Go Together โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนใน 3 แนวทาง ได้แก่

1. การเสริมศักยภาพด้วยเทคโนโลยี เช่น การประยุกต์ใช้ AI และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับทักษะแรงงานให้สามารถรับมือกับงานที่ซับซ้อนและมีมูลค่า เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

2. การผลักดันการใช้พลังงานทางเลือกในภาคธุรกิจช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานควบคู่กับการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม และ

3. การสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จผ่านโครงการต้นแบบ อาทิ โครงการสระบุรีแซนด์บอกซ์โมเดลความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมสร้างพื้นที่ในการทดลองใช้พลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ พร้อมขยายผลสู่ระดับประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน

“ผมเชื่อว่า หากทุกภาคส่วนร่วมมือและลงมือทำอย่างจริงจัง เราจะสามารถก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปได้ และร่วมกันผลักดัน SMEs ไทยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่ออนาคตของประเทศต่อไป”ดร.ชนะ กล่าวทิ้งท้าย

“C:\Users\Sampast\Desktop\AFFA70D5D56093E9AB268618AC088F6F22E843A2.mp4”

                                    ———————————————————-

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *