“ซัคเซสมอร์” จ่อปิดดีลเพิ่มพันธมิตรธุรกิจสินเชื่อใน Q4/65 เสริมทางเลือกให้ลูกค้าล่าสุดทุ่มงบโฆษณาเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ พร้อมเผยผลงาน 9 เดือนแรก รายได้รวมกว่า 877 ล้านบาท
บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM เปิดผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2565 ทำรายได้รวมจากการขายสินค้าและบริการที่ 835.2 ล้านบาท รายได้อื่นๆ 42.2 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 136.4 ล้านบาท จ่อปิดดีลเพิ่มพันธมิตรในธุรกิจสินเชื่อในไตรมาส 4/65 เสริมทางเลือกให้ลูกค้า ดันพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปีนี้แตะ 50 ล้านบาท ล่าสุดทุ่มงบโฆษณาเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ ตอกย้ำภาพลักษณ์ และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ พร้อมรุกเป้าหมายการเติบโตในปี 2566 ด้วยศักยภาพและความแข็งแกร่ง ย้ำการเป็นหุ้น Hight Growth
นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในการดูแลสุขภาพ รูปแบบเครือข่าย หรือ Multi-Level Marketing (MLM) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2565 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแผนงานที่ตั้งเป้าหมายไว้ในด้านต่างๆ ด้วยความรอบคอบ และติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ยังมี กำลังซื้อเพิ่มเข้ามาตามการฟื้นตัวของโมเมนตัม (Momentum) ที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าตัวเอก คือ Growing More ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรกรที่มี High Margin สูง โดยมียอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 โตกว่า 60% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 64 ขณะที่สินค้ากลุ่ม Skin Care เติบโต 18% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เติบโต 3% นอกจากนี้แล้ว บริษัทฯ ยังมีกองทัพนักขยายเครือข่าย ที่พร้อมส่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพตอบรับเทรนด์ดูแลสุขภาพที่กำลังเป็นที่นิยม โดยเร็วๆ นี้จะมีแคมเปญ “ลดพุงเพื่อสุขภาพ” ตอกย้ำการเป็นเจ้าตลาดอาหารเสริมและสินค้าอุปโภคบริโภคของคนไทยที่เติบโตทั้งในและต่างประเทศ
ขณะที่ “ธุรกิจลิสซิ่ง” ภายใต้ชื่อ “บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด” ที่ได้เปิดดำเนินการในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการให้สินเชื่อประเภทเช่าซื้อ จํานําทะเบียนรถ และจํานองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นับเป็นการต่อยอดจากการมีฐานกลุ่มสมาชิก MLM ในประเทศไทยที่มีอยู่ประมาณ 136,000 ราย โดยได้เริ่มปล่อยสินเชื่อในระยะแรกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือสมาชิกนักธุรกิจเครือข่ายของ SCM โดยใช้พื้นที่สาขาของบริษัท และระยะต่อไปจะขยายไปสู่บุคคลทั่วไป คาดว่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในระยะยาว ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปี 2565 จะมีพอร์ต (Port) สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ประมาณ 50 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ คาดว่าจะสรุปดีลการเพิ่มพันธมิตรในธุรกิจสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกการให้บริการสินเชื่อกับลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น
นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCM กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 278.3 ล้านบาท รายได้อื่นๆ 13.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 43.6 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายฐานสมาชิกเพิ่มรวมทั้งวางเป้าการแอคทีฟของฐานสมาชิกโดยการเพิ่มฐานสมาชิกด้วยการสร้างแบรนด์ให้ขยายวงกว้าง โดยได้เดินหน้ารุกทำการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์แบบจัดหนัก และการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ล่าสุด ได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ (S.O.D MORE)
ทั้งนี้โดยในตอนนี้มีการปล่อยภาพออกไปแล้ว คือ “มาริโอ้ เมาเร่อ” พระเอกหนุ่มสุขภาพดี ซึ่งถือเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ปลุกกระแสการดูแลสุขภาพเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและเร็วขึ้น ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าไปในตัว พร้อมทั้งยกระดับความพรีเมียมของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.ดี มอร์ ตัวช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเสริมเกราะปกป้องสุขภาพ พร้อมแผนงานสร้างซัคเซสมอร์ให้เป็นแบรนด์ที่น่าเข้าร่วมทำธุรกิจและมีสินค้าที่หลากหลายและคุณภาพดี เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า รวมถึงแผนงานขยายตลาดไปในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยภาพรวมทั้งหมดดำเนินการภายใต้กลยุทธ์หลักๆ ประกอบด้วย
1.ขยายเพิ่มฐานสมาชิก ในรูปแบบของสมการ XYZ เช่น สำหรับ X คือ การเพิ่มฐาน Member ให้มีปริมาณที่เพิ่มขึ้น สำหรับ Y คือ คุณภาพของสมาชิกต้อง Active มากขึ้นต่อเดือน ส่วน Z คือ ยอด Order Side ที่สมาชิกแต่ละคนซื้อต้องมียอดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมุ่งเน้นเจาะตลาดพื้นที่ที่มีกำลังซื้ออย่าง ภาคอีสานและภาคกลาง โดย ณ เดือนกันยายน 2565 บริษัทฯ มีจำนวนสมาชิกรวม 187,000 คน แบ่งเป็นสมาชิกในประเทศไทย 136,000 คน และสมาชิกในต่างประเทศ 51,000 คน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดสมาชิกอยู่ที่ 200,000 ราย
2. เจาะขยายตลาดเกษตรกรและตลาด Silver Age ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเสริมจำนวน 1 รายการ คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการนอนหลับ และสินค้าอีกจำนวน 2 รายการ ที่ได้ออกไปแล้วใน 9 เดือนแรกของปี คือ ผลิตภัณฑ์ Benfite’ (เบนฟิเต้) ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Oral Care) ทั้งเม้าท์วอช (น้ำยาบ้วนปาก) ยาสีฟัน(เนื้อครีม) เม้าท์สเปรย์ ที่มีส่วนผสมของกระชายขาวและฟ้าทะลายโจร และผลิตภัณฑ์แบรนด์ S Mone’ ครีมบำรุงผิวหน้า BRIGHTENING CREAM ในคอนเซปต์ “เปิดออร่าผิวสวย ปิดต้นเหตุผิวหมองคลํ้า ที่ได้กระแสตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดีในช่วง Q3 ที่ผ่านมา รวมถึงอยู่ในช่วงพัฒนาและคิดค้นปุ๋ยน้ำ NPK เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเกษตรมากขึ้น รวมถึงบริษัทฯ ได้มีการจัดงานออฟไลน์ (Offline) อย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นงานที่ SCM มีความถนัด
3. ขยายดีลเลอร์ต่างประเทศ ปัจจุบันที่มีตัวแทนจำหน่ายแล้วใน 6 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย และสิงคโปร์ นอกจากนี้ SCM อยู่ระหว่างดำเนินการ (Operate) จัดตั้งสำนักงานในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงกำลังศึกษาแนวทางขยายตลาดไปยังประเทศใกล้เคียง เช่น ประเทศอินโดนีเซีย และการหาตัวแทนฯ นำสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศที่บริษัทฯ ไม่มีสำนักงานตั้งอยู่ อาทิ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยทั้งหมดนี้อยู่ในแผนการพัฒนาในปี 2566
และ 4.พัฒนายกระดับความแข็งแกร่งของทีมขยายเครือข่าย โดยได้เร่งพัฒนาทีมประจำภูมิภาคให้ได้ 10-15 ทีม เพื่อการสร้างการรับรู้แบรนด์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคให้มากขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2565) โดยมีรายได้รวมจากการขายสินค้าและบริการที่ 835.2 ล้านบาท รายได้อื่นๆ 42.2 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 136.4 ล้านบาท แม้ผลการดำเนินงานจะชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (Y๐Y) แต่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาอัตราการทำกำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยได้เดินหน้าบริหารจัดการและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มุ่งพัฒนาให้สินค้าของซัคเซสมอร์เป็น Product Lover และ Brand Lover ผ่านการเข้าถึงลูกค้า ตอบโจทย์และสร้าง Community Marketing ควบคู่กันไป
สำหรับ เป้าหมายการเติบโตในปี 2566 ด้วยศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ใน 2 ส่วนที่โดดเด่นนั่นคือ การมีฐานสมาชิกที่เหนียวแน่น และพร้อมที่จะการพัฒนาสกิลและทำให้สมาชิก มีความเข้าใจในสินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น รวมถึงการขยายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพอย่างประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น ทั้งนี้ SCM ถือเป็นหนึ่งในหุ้น Hight Growth ที่มีความสม่ำเสมอ ประกอบกับการที่บริษัทฯ ไม่มีหนี้ ทำให้สามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างลงตัว ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้หุ้นของ SCM มีเสน่ห์ มีความเฉพาะตัวที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
เกี่ยวกับซัคเซสมอร์
บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 โดยนายสิทธวีร์ เกียรติชวนันต์และนายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในลักษณะเครือข่ายขายตรง (Multi-level Marketing หรือ “MLM”) ที่มีเครือข่ายสมาชิกมากกว่า 250,000 คน จาก 7 ประเทศใน AEC บริษัทฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 โดยบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท บริษัทฯ มีบริษัทย่อยทั้งหมด 4 บริษัท คือ บริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด (“SMI”) บริษัท ซัคเซส สปิริต จำกัด (“SPT”) บริษัท SCM Spirit (Myanmar) Co., Ltd. (“SPM”) และบริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด
————————————-