อุตสาหกรรมหมูไทยที่ถูกหมูเถื่อนเข้ามาตีตลาด กระทบกับอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางรายต้องเลิกเลี้ยงเพราะทนแบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหว แต่เรื่องนี้สำหรับกลุ่มเกษตรกรรายย่อย ร่วม 5,000 ราย ในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสุกรกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ทั้งนี้เพราะมีบริษัทรับหน้าที่ช่วยหาตลาดรับซื้อผลผลิตหมูของเกษตรกรทั้งหมด เพื่อนำมาเข้ากระบวนการผลิตเป็นเนื้อหมูคุณภาพ สำหรับส่งจำหน่ายในร้านค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ (โมเดิร์นเทรด) อาทิ แม็คโคร โลตัส เป็นการตอกย้ำความมั่นใจให้กับเกษตรกร ว่าเป็นผู้ผลิตที่มีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็มั่นใจได้ว่าได้บริโภคเนื้อหมูที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ และยังมีส่วนร่วมสนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีอาชีพที่ยั่งยืน
นายสมพร เจิมพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาราคาหมูผันผวนมาก จากหมูเถื่อนที่มาตีตลาดหมูไทย สำหรับซีพีเอฟที่ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร ในรูปแบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ที่ปัจจุบันมีเกษตรกรย่อยอยู่ในโครงการนี้ร่วม 5,000 ราย ถือเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องเผชิญปัญหาความผันผวนของราคาหมู เนื่องจากเกษตรกรและบริษัทฯ มีการทำสัญญาตกลงราคากันไว้ และบริษัทฯ เป็นผู้รับซื้อผลผลิตทั้งหมดของเกษตรกรไว้ จึงไม่ต้องกังวลว่าผลิตแล้วจะไม่มีตลาดรองรับ ทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่ไร้ความเสี่ยงทั้งด้านราคาและการตลาด มีหลักประกันรายได้ที่มั่นคง
ที่สำคัญ ผลผลิตหมูจากฝีมือเกษตรกรไทย ถูกส่งเข้าโรงงานเชือดชำแหละที่ได้มาตรฐานของซีพีเอฟ ผลิตเป็นเนื้อหมูที่จำหน่ายผ่านตลาดสด ร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ ร้านค้าปลีก และร้านโมเดิร์นเทรดต่างๆ เพื่อให้เนื้อหมูคุณภาพส่งตรงถึงมือผู้บริโภค นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์ และสนับสนุนด้านการตลาดให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายกลางอีกร่วม 500 ราย ที่ถือเป็นการสร้างห่วงโซ่การผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคชาวไทย
อย่างไรก็ตาม การรับบท ‘ผู้ช่วยหาตลาดรองรับผลผลิต’ จากเกษตรกรรายย่อย ที่ซีพีเอฟทำมาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี จึงมีส่วนช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องกังวลเรื่องตลาดผันผวน ช่วยตัดวงจรเสี่ยงด้านราคาให้แก่เกษตรกร และยังเป็น “ตัวกลาง” ในการส่งต่อเนื้อหมูที่ผลิตจากฝีมือคนไทยเพื่อผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างแท้จริ
———————————-