จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ส่งผลให้ในช่วงวันที่ ๒๓ – ๒๕ กันยายน ๒๕๖4
บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างประกอบกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากบางแห่ง ทำให้มีปริมาณน้ำท่าจากลุ่มน้ำปิง วัง ยม และน่าน ไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามากขึ้น ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักพบว่าเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้ไหลผ่าน
เขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา ๒,775 – 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ปริมาณน้ำหลากสูงสุดจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกสูงสุดในอัตรา ๗๖๒ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าในวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ ปริมาณน้ำจะไหลหลากรวมกันผ่าน อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในเกณฑ์สูงสุด ๓,๐๕๐ – ๓,๑๕๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะไหลออกสู่อ่าวไทย ในช่วงวันที่ ๗ – ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๔ ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง คาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังประกอบด้วย
1. จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
2. กรุงเทพมหานคร บริเวณพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำล้นคันป้องกันน้ำริมแม่น้ำของกรุงเทพมหานคร ยกเว้นบริเวณที่ไม่มีระบบคันป้องกันริมแม่น้ำ
ในการนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
๑. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันน้ำริมแม่น้ำ เสริมคันกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยงที่มีระดับคันป้องกันน้ำต่ำ และบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ
๒. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำทราบล่วงหน้า
๓. เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรณาการความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
ประกาศ ณ วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๔