-ชูจุดเด่นของ NTT และ ServiceNow ด้วยการจัดการระบบ Workflow แบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยี AI บนแพลตฟอร์มการให้บริการอัตโนมัติที่ช่วยให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากเครือข่าย Private 5G
-ด้วยเทคโนโลยี NTT Private 5G (P5G) Pre-built Assets ของ ServiceNow ช่วยให้องค์กรง่ายต่อการปรับ Workflow เข้าสู่ระบบดิจิทัล เพื่อรองรับการใช้งาน Private 5G อย่างเต็มรูปแบบ
-เสริมประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจของ CIOs และ Chief Digital Officers ด้วยแนวคิด Cloud-based Economy ที่ย่นเวลานำสินค้าออกสู่ตลาด พร้อมเพิ่มศักยภาพการให้บริการได้ดีขึ้น
บริษัท เอ็นทีที จำกัด (NTT Ltd.) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ประกาศความร่วมมือกับ ServiceNow ผู้ให้บริการ Digital Workflow บนเครือข่ายคลาวด์ เร่งปูพรมการใช้งาน เครือข่าย Private 5G บนแพลตฟอร์มเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้องค์กรใช้ประโยชน์จาก Pre-built Software จาก NTT และ ServiceNow เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาและประยุกต์ใช้เครือข่าย Private 5G
การใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครือข่าย Private 5G เพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ซับซ้อน องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องปรับกระบวนการทางธุรกิจเข้าสู่ระบบดิจิทัล เพื่อผสานการทำงานของระบบ Workflow และเครือข่าย Private 5G ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Private 5G (P5G) ของเอ็นทีที พร้อมทั้งการให้บริการแบบครบวงจร (end-to-end) เอ็นทีทีและ ServiceNow ได้ผสานจุดเด่นเข้ากับระบบ Workflow อัตโนมัติของ ServiceNow เพื่อช่วยให้องค์กรปรับระบบการทำงานเข้าสู่ระบบดิจิทัลได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ส่งผลให้องค์กรสามารถย่นระยะเวลาในการนำสินค้าออกสู่ตลาดภายใต้แนวคิดเศรษฐศาสตร์แบบคลาวด์ (Cloud-based Economy) พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
นาย Shahid Ahmed รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจใหม่และนวัตกรรมของ NTT Ltd. กล่าวว่า การปรับ Workflow เข้าสู่ระบบดิจิทัลเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับทุกการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การผสานความเรียบง่าย รวมทั้งระบบการควบคุมและการรักษาความปลอดภัยที่ดีของแพลตฟอร์ม NTT P5G ที่รวมเข้ากับจุดแข็งของ Pre-built Assets ของ ServiceNow ทำให้บริษัทสามารถเร่งสร้างมูลค่าการใช้งาน Private 5G ให้กับลูกค้าและอุตสาหกรรมในวงกว้างได้
นาย Lara Caimi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าและคู่ค้า ของ ServiceNow กล่าวว่า ด้วยความสามารถในการประสานระบบ Workflow ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI บริษัทจะช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในองค์กรต่างๆ โดยนำผู้คน กระบวนการ และระบบรวมเข้าด้วยกัน เพื่อส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าและพนักงาน
“การทำงานร่วมกันกับเอ็นทีทีในครั้งนี้ เราจะนำเสนอกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วยบริการการเชื่อมต่อเครือข่าย Private 5G ที่มีความปลอดภัยในรูปแบบ “as-a-service” ครบวงจร ซึ่งจะช่วยเร่งให้เกิดการใช้งาน Private 5G ในองค์กรต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรม” นาย Caimi กล่าว
นาย Eric Clark ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลและกลยุทธ์ของ NTT DATA Services กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน ลูกค้าทั่วโลกกำลังมองถึงก้าวต่อไปของการ Customization และ Personalization รวมถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานที่จำเป็นต่อการแข่งขันในสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว การสร้างกลไกระบบ Workflow ด้วยศักยภาพของ ServiceNow ผนวกกับความสามารถในการให้บริการแบบครบวงจร (end-to-end) ของกลุ่มเอ็นทีที จะช่วยเร่งให้เกิดการสนับสนุนและการใช้งานกระบวนการทางธุรกิจซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการเดินทางของเทคโนโลยี Private 5G
-ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NTT’s Private 5G Solotions สามารถเยี่ยมชมได้ที่ https://hello.global.ntt/p5g
———————————————-